รู้จักกับคลินิกแก้หนี้บริการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วยโครงการปลดหนี้สี่ภาคเพื่อคนอยากปลดหนี้ปี 2023

สารบัญ
คลายทุกความกังวลใจ คลินิกแก้หนี้ ตัวช่วยในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียให้กับคุณ
ในปัจจุบัน สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทุกวันนี้ผู้คนนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และเลือกสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ แทนการใช้จ่ายด้วยเงินสดกันมากขึ้น เพราะด้วยความสะดวกในการพกพา ลดปัญหาเรื่องเงินทอน และยังช่วยลดความเสียงจากการถูกโจรกรรม แต่ความสะดวกสบายก็เป็นเหมือนกับดาบสองคม มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เป็นหนี้จากการใช้จ่ายที่ง่ายดาย และรวดเร็วนี้ แน่นนอนว่าทุกคนที่มีหนี้สิน คงไม่มีใครมีความสุข ทุกคนต่างรู้สึกกระวนกระวายในจิตใจ ทั้งเครียด ไม่สบายใจ และต่างพยายามจะหาหนทางเพื่อแก้ไขให้หนี้สินที่มีอยู่หมดไปโดยเร็วที่สุด ซึ่งในเวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็มักจะไปคลินิกเพื่อรักษาความเจ็บป่วยที่มีให้หายไป เช่นเดียวกันกับการเป็นหนี้ ที่มีคลินิกแก้หนี้ เป็นตัวช่วยที่จะบรรเทาความทุกข์ใจจากการเป็นหนี้ให้กับทุก ๆ คน ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าคลินิกแก้หนี้ 2566 มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
Debt Clinic ตัวช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินในระบบ
ปัญหาหนี้เสียจากการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และหนี้เสียจากการขอสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วไม่น้อยไปกว่าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาการจ่ายหนี้ไม่ไหว ในวันนี้คลินิกแก้หนี้จะมาเป็นตัวช่วยให้คนไทยสามารถปลดหนี้เสียที่มีอยู่ให้หมดไปได้ แต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกับทางด่วนแก้หนี้กันก่อนดีกว่า
คลินิกแก้หนี้ (Debt Clinic) คือ หน่วยงานกลางที่เกิดจากความร่วมมือกันของธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินแทนสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการทางการเงิน ภายใต้กฎเกณฑ์ และกฎหมายที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อช่วยจัดการปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ในการวางแผน และการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อสุขภาพ และค่านิยมทางการเงินที่ดีให้กับทุกคน
คลินิกแก้หนี้ แก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างครบวงจร
สำหรับคนที่มีเจ้าหนี้หลายราย และต้องการที่จะปลดภาระหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ คงจะเสียเวลาไม่น้อยเลย ถ้าหากว่าจะต้องไปเจรจากับเจ้าหนี้ทีละราย เพื่อปลดภาระหนี้สินที่มีทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของทางด่วนแก้หนี้ อย่างคลินิกแก้หนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนกับ One Stop Service ที่จะช่วยเจรจาติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกรายให้กับคุณ โดยเป็นทางด่วนแก้หนี้ที่จะช่วยหาแนวทางในการชำระหนี้ที่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระของลูกหนี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เป็นการเพิ่มโอกาส และความสะดวกในการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้มากขึ้น โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ นอกจากเงินกู้ด่วนนอกระบบ ก็มีดังนี้
- บัตรเครดิต
- บัตรกดเงินสด
- สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันของธนาคาร และกลุ่มธุรกิจการเงิน (Non-Bank)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับคนไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ในการวางแผน และการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ให้กับลูกหนี้ และประชาชนที่สนใจสมัครโครงการคลินิกแก้หนี้ทุก ๆ คน เปรียบเสมือนโครงการปลดหนี้สี่ภาคที่จะช่วยแก้หนี้นอกระบบ และป้องกันการเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
คลินิกแก้หนี้ 2566 ปรับเกณฑ์ใหม่ เพื่อจัดการปัญหาหนี้สินไปด้วยกัน
ในปี 2023 นี้ ทางคลินิกแก้หนี้ได้ทำการปรับเกณฑ์หนี้เสียใหม่ เพิ่มโอกาสให้กลุ่มคนที่มีหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเป็นการขยายเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีหนี้เสียกลุ่มที่ได้พลาดโอกาสในรอบก่อนไป และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าแต่ในการสมัครคลินิกแก้หนี้ใครผ่านบ้าง มาดูกัน
คุณสมบัติ
- เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้
- มีอายุไม่เกิน 65 ปี
- เป็นหนี้เสีย (NPL)ก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2566
- มียอดหนี้รวมกันทั้งหมดไม่เกิน 2 ล้านบาท
โครงการคลินิกแก้หนี้ ได้ขยายเวลาการเป็นหนี้เสีย จากเดิมวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่มีหนี้เสีย ทั้งหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคาร และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) กับสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้ทำการออกมาตรการพิเศษเป็น “ยาแรง 2 สูตร” ที่ขยายระยะเวลาออกไปถึงเดือนมิถุนายน 2566 ด้วยการให้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงแค่ 4-7% ต่อปี และให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 10 ปี
ยาสูตร 1
เป็นการการเลื่อนกำหนดในการชำระหนี้ ทั้งการชำระเงินต้น และดอกเบี้ยแก่ผู้ที่ไม่สามารถสามารถชำระหนี้ได้ โดยจะไม่ถือว่าเป็นหารผิดนัดชำระหนี้ และไม่เสียประวัติทางการเงิน
ยาสูตร 2
เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยลง 1-2% ให้กับผู้ที่สามารถทำการผ่อนชำระได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ยิ่งจ่ายมากก็ยิ่งลดมาก ซึ่งถ้าหากว่าทำการจ่ายค่างวดเฉลี่ยตั้งแต่ 80% ขึ้นไป ก็จะลดให้ 2% หรือถ้าหากว่าไม่ไหวแต่ยังจ่ายค่างวดได้ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 40% ก็ลดให้ 1%
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ที่มีอยู่ได้ ในวันนี้คลินิกแก้หนี้พร้อมที่จะช่วยให้คุณปลดหนี้จากหนี้เสียต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้เสียจากบัตรเครดิต บัตรกดเงิน สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคาร และกลุ่ม Non-Bank สำหรับที่อยากปลดหนี้ และสนใจจะใช้บริการคลินิกแก้หนี้สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการด้วยตัวเองได้ที่โครงการคลินิกแก้หนี้ หรือสมัครออนไลน์ได้ที่ www.debtclinicbysam.com และ www.คลินิกแก้หนี้.com