แอป kept

แอป kept กับการออมเงินมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
คุณเคยใช้วิธีการเก็บออมมามากมายหลายวิธี มีทั้งสำเร็จผลบ้างและล้มเลิกเสียกลางทางบ้าง แต่เชื่อคุณยังไม่เคยเก็บออมผ่านแอป kept มาก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งเราขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก่อนเลยว่า kept คือ แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณมีเงินเก็บออม การจัดการของแอพจะช่วยให้คุณได้รู้ถึงสัดส่วนการใช้จ่ายเงินที่เหมาะสมว่าแท้จริงแล้วในแต่ละเดือนคุณจ่ายไปเท่าไหร่และมีเก็บในบัญชีเท่าไหร่ ซึ่งต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าแอปเก็บเงินแอปนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บและในขณะเดียวกันก็สามารถใช้จ่ายได้ตามปกติ เพียงแต่จะช่วยให้การใช้จ่ายเหล่านั้นมีเหตุมีผลมากขึ้น
ออมเงินกับแอป kept ดีกว่าการฝากเงินเข้าบัญชีฝากประจำอย่างไร ?
หนึ่งในวิธีที่คุณเคยออมเงินมาก่อน ต้องมีการฝากเงินเข้าบัญชีประจำเป็นหนึ่งในนั้นด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งข้อดีของการออมเงินวิธีนี้คือเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี 2 ปี หรือมากกว่านั้นคุณจะได้รับเป็นเงินก้อนออกมาใช้จ่าย แต่ข้อเสียอาจจะเป็นในเรื่องของการนำเงินออกมาใช้ก่อนกำหนดอาจเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อคุณถอนออกมาก่อนจะทำให้ดอกเบี้ยที่ได้ลดลงไป ไม่คุ้มค่ากับระยะเวลาที่ได้ฝากเอาไว้ อีกทั้งคุณต้องฝากเงินในจำนวนที่เท่า ๆ กันทุกเดือนด้วย แต่สำหรับการออมเงินกับแอป kept จะเป็นในลักษณะของการจัดสรรปันส่วนค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และหากมีเหลือก็จะนำเข้าไปออมไว้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณสนุกและสามารถวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละวันควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ kept ดอกเบี้ย ยังให้มากถึง 1.8% ต่อปีอีกด้วย
หลักการออมเงินของแอป kept ง่าย ๆ ทำอย่างไร ?
เอาเป็นว่าเมื่อคุณรู้แล้วว่าแอป kept ก็เป็นหนึ่งทางเลือกของการออมเงิน ดังนั้นรูปแบบการออมเงินก็คล้าย ๆ กับการฝากเงินในธนาคาร ซึ่งแอปเก็บเงินตัวนี้ก็มีธนาคารกรุงศรีฯ คอยให้บริการอยู่เบื้องหลัง จึงไม่แปลกหากคุณจะเคยได้ยินชื่อแอพนี้มาในชื่อต่าง ๆ เช่น kept กรุงศรี, กรุงศรี kept หรือถ้าต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเพียงแค่พิมพ์ชื่อว่า kept by krungsri รีวิว เพียงเท่านี้ก็จะมีข้อมูลให้คุณได้อ่านเพิ่มเติมมากมาย ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ในหลักการเก็บเงินก็คือ เมื่อคุณสมัคร kept เรียบร้อยแล้วก็จะต้องเปิดบัญชีขึ้นมา 3 บัญชีด้วยกัน โดย
บัญชีที่ 1 – บัญชี kept ไว้สำหรับจัดการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และยังใช้เพื่อโอนเงินเข้าและโอนเงินออกได้เช่นกัน
บัญชีที่ 2 – บัญชี glow หรือกระปุก glow ที่เรียกว่ากระปุก เพราะบัญชีนี้จะใช้สำหรับเก็บออมเงินทั้งในส่วนที่เหลือและส่วนที่ได้ทำการโอนมาเกินจำนวนที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน
บัญชีที่ 3 – บัญชี Fun เป็นบัญชีที่ช่วยให้คุณเก็บเงินที่จ่ายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนเป็นการทำโทษ อย่างเช่นหากคุณโอนเงินซื้อของออนไลน์ คุณจะต้องนำเงินเก็บเข้าบัญชี Fun อย่างน้อยครั้งละ 5 บาท 10 บาท ขึ้นอยู่กับการตั้งกติกาของคุณ บัญชีนี้อาจขัดใจคุณอยู่ไม่น้อยแต่เชื่อว่าจะช่วยให้คุณระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ถ้าจะถามว่าแอป kept ดีไหม คำตอบที่ให้ได้คือดีอย่างแน่นอน เพราะจากข้อมูลทั้งหมดนั้นคุณจะเห็นแล้วว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเก็บออม อีกทั้งยังช่วยจัดการการใช้จ่ายของคุณได้อย่างเหมาะสมผ่านบัญชีทั้ง 3 ประเภท ดังนั้นหากใครอยากสนุกกับการออมเงินแบบใหม่นี้ก็ลองมาออมเงินผ่านกรุงศรี kept กันเลย